มาทำความรู้จัก E wallet คืออะไร? ในประเทศไทยมี E wallet อะไรบ้าง? ความแตกต่างของ E wallet และ Digital wallet ต้องทำอย่างไรถึงรับชำระ E wallet ได้ ศึกษาได้ในบทความนี้
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆช่วยอำนวยความสะดวกให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น พูดถึงในเรื่องระบบการชำระเงินในยุคของสังคมไร้เงินสดในปัจจุบัน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ นอกจากจะช่วยสร้างระบบที่ทำให้การชำระเงินนั้นมีความสะดวก รวดเร็วและไม่ต้องพกบัตรหลายๆบัตรอีกต่อไปแล้ว แถมยังช่วยลดการสัมผัส ซึ่งเป็นต้นเหตุของการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้อีกด้วย ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับระบบ E wallet ว่ามันคืออะไร? ในประเทศไทยมี E wallet เจ้าไหนมีบริการบ้าง? ความแตกต่างระหว่าง E wallet และ Digital wallet? ข้อดีของ E wallet? และหากต้องการรับชำระด้วย e-wallet จะต้องทำอย่างไร? สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ในบทความนี้
E wallet คืออะไร?
E wallet คือ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ย่อมาจาก Electronics wallet หรือ E payment ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเงินออนไลน์ (Mobile Wallet) หรือกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) จะเรียกรวมกันว่า E wallet ทั้งสิ้น ซึ่งอยู่ในรูปแบบแอปพลิเคชั่นที่มีความปลอดภัยสูง แอพกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายโดยตรง หรือผ่านระบบออนไลน์ ในปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากผู้ใช้งานสามารถควบคุมการใช้จ่ายได้อย่างอิสระและไม่ต้องผูกกันกับบัตรใดๆ โดยการเติมเงินจากบัญชีธนาคารเข้าแอปพลิเคชั่นก็สามารถทำธุรกรรมได้อย่างง่ายดาย แถมยังมีความรวดเร็วและสามารถตรวจสอบได้ง่ายอีกด้วย
E wallet และ Digital Wallet เหมือนกันหรือไม่?
E wallet และ Digital wallet มีความเหมือนกันตรงที่ว่า เป็นแอปพลิเคชั่นที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นระบบในการชำระเงินและการทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ ซึ่ง E wallet เป็นคำที่ใช้เรียกกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทโดยรวมแต่ Digital wallet จะเป็นระบบการชำระเงินที่มีการนำเอาระบบ Fintech หรือ Financial Technology มาปรับใช้ร่วมด้วยเพื่อให้บริการทางการเงิน โดยเฉพาะในส่วนที่ทางธนาคารไม่ได้ให้บริการอย่างครอบคลุม ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า Digital wallet เป็นหนึ่งในประเภทของ E wallet ส่วน E wallet ไม่ได้เพียงแค่ Digital wallet เท่านั้นแต่จะมี Electronics wallet ประเภทอื่นๆร่วมด้วย
E wallet ในไทย มีอะไรบ้าง ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน?
1. TrueMoney wallet
เป็นแอปพลิเคชั่นกระเป๋าเงินออนไลน์ที่มีให้ครบทุกอย่างในแอพเดียว สามารถใช้จ่ายแทนเงินสดที่ร้านค้าชั้นนำ เช่น 7-Eleven, Boots, CP Fresh Mart เป็นต้น เติมเงินค่าอินเทอร์เน็ต, เติมเงินค่าโทรศัพท์, เติมเงินค่า Easy Pass, เติมเงินค่าบัตรโดยสาร MRT, เติมเงินในเกม, ซื้อตั๋วเครื่องบิน นอกจากนี้ยังสามารถผูกบัญชีกับบัตรเครดิตได้ ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นเหมือนบัตรเครดิตเสมือนที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำการจ่าย โอนและชำระผ่านระบบออนไลน์ได้เหมือนบัตรเครดิตทั่วๆไป
หลายๆคน มักจะเข้าใจผิดระหว่างคำว่า True Money และ True wallet ซึ่งจริงๆแล้วมันคือ TrueMoney Wallet หรือบัญชีกระเป๋าเงินออนไลน์จาก TrueMoney เพื่อให้บริการการเงินออนไลน์ที่ผู้ใช้งานสามารถจัดการเกี่ยวกับการเงินได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชั่น ด้วย 3 บริการหลักๆ คือ การ Scan & Pay ชำระค่าบริการและจ่ายบิลได้ทุกเครือข่าย
2. Rabbit Line Pay
เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Rabbit และ LINE pay ที่พัฒนาระบบการชำระเงินที่แสนง่ายและปลอดภัยผ่านแอปพลิเคชั่น Line ด้วยการเติมเงินเข้าบัญชีของคุณเพื่อทำการโอน ชำระเงิน หรือรับสิทธิพิเศษในรูปแบบของการสะสมแต้มต่างๆ
3.Airpay (ShopeePay)
AirPay คือ ระบบ E wallet ของบริษัท Sea Group ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านเกมออนไลน์ที่เรารู้จักกันดีในชื่อกรุ๊ปว่า Garena แต่ในปัจจุบันได้มีการเน้นให้บริการด้านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เรารู้จักกันดีว่า Shopee จึงได้ผันตัวมาเป็นช่องทางการชำระเงินที่เรียกว่า ShopeePay นั่นเอง
เป้าหมายหลักๆของการรีแบรนด์จาก AirPay เป็น ShopeePay คือ การสร้างความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มและให้ ShopeePay กลายเป็น E wallet ไทยเบอร์ 1 สำหรับการใช้จ่ายและการทำธุรกรรมทางการเงิน
4.mPAY
mPay เป็นบริการ E wallet ที่เปิดให้บริการมานานจากค่ายโทรศัพท์มือถือ AIS ซึ่งให้ผู้ใช้งานสามารถโอนเงินแบบพร้อมเพย์ไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ผูกไว้กับบัญชีได้ อีกทั้งยังสามารถทำการสแกน QR Code เพื่อใช้ชำระจ่ายสินค้าได้
5.Samsung Pay
เป็น E wallet ที่กำลังได้รับความนิยมมากในขณะนี้ด้วยการผูกบัตรเครดิตเข้ากับสมาร์ทโฟน จากนั้นก็สามารถนำไปชำระค่าบริการและสินค้าต่างๆได้ มีความครอบคลุมและหลากหลายมากกว่า E wallet อื่นๆ ซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพกับผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนยี่ห้อ Samsung
ข้อดีของ E wallet
1. ผู้ใช้งานสามารถทำการผูกบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตเข้ากับโทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟน โดยที่ไม่ต้องพกบัตรหลายบัตรอีกต่อไป แถมยังไม่ต้องพกเงินสดติดตัวด้วย
2. สามารถทำการชำระค่าบริการ ค่าสินค้า ค่าอาหารได้อย่างง่ายๆ สะดวก รวดเร็วผ่านระบบสแกนที่ร้านค้าเท่านั้น
3. ผู้ใช้งานสามารถทำการเติมเงินเข้าสู่บัญชีที่ใช้งานได้ หรือสามารถหักเงินผ่านบัตรเครดิต หรือบัตรเครดิตได้ทันที
4. ผู้ใช้งานมีสิทธิ์ได้รับสิทธิพิเศษผ่านการสะสมแต้ม โปรโมชั่น ส่วนลด หรือ Cash Back ได้
ร้านค้าต้องทำอย่างไร หากต้องการรับชำระผ่านทาง E wallet เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า
E wallet นับได้ว่าเป็นระบบที่จะช่วยให้การชำระเงินมีความสะดวกสบายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากคุณเป็นเจ้าของธุกิจ หรือร้านค้าและต้องการชำระเงินผ่านทาง E wallet สามารถทำการสมัครกับผู้ให้บริการได้โดยตรง แต่มันคงจะดีกว่านี้หากว่ามีผู้ให้บริการที่ได้รวบรวมเอาระบบการชำระเงินทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกันโดยที่ไม่ต้องสมัครกับผู้ให้บริการหลายๆเจ้า
อย่างเช่น ผู้ให้บริการ Payment Gateway ยักษ์ใหญ่อย่าง Ksher ที่จะช่วยปรับเปลี่ยนระบบการชำระเงินของร้านค้าให้ง่ายขึ้น ด้วยระบบออนไลน์และออฟไลน์ที่เหมาะสำหรับลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า โรงแรม บริษัทท่องเที่ยว ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือแม้กระทั่งโรงเรียนก็สามารถใช้งานได้ แถมยังเชื่อมต่อกับ e-wallet หลายๆผู้ให้บริการ เช่น TrueMoney wallet, Rabbit LINE pay, WeChat pay, AliPay, ShopeePay และพร้อมเพย์ นอกจากนี้ยังสามารถผูกบัตรเครดิตและเดบิต ไม่ว่าจะเป็น Visa, Mastercard, JCB หรือ Unionpay ก็ได้ด้วย ซึ่งทำให้ระบบการชำระเงินของร้านค้าของคุณง่ายขึ้นเป็นอีกเท่าตัว